อยากบอกต่อ

Just another WordPress.com weblog

Posts Tagged ‘1577 Call Center

จุล โชติกะวรรณ เปิดเผย 1577 คอลเซ็นเตอร์ บุกอิเหนา

leave a comment »

1577 คอลเซ็นเตอร์ หนีกำลังซื้อในประเทศหด เร่งสยายปีกลุยตลาดต่างประเทศ ล่าสุดทุ่ม 60 ล้านบาท เปิดธุรกิจในอินโดนีเซีย คาดเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ พร้อมเร่งกิจกรรมเต็มสูบทั้งเวียดนามและมาเลเซีย วาดเป้าโกยยอดขายตปท. 1,000 ล้านบาท
นายจุล โชติกะวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Property Technology จำกัด ผู้ให้บริการจำหน่ายสินค้าผ่านระบบคอลล์เซ็นเตอร์ 1577 Call Center เปิดเผยกับ
“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า แผนการรุกตลาดของบริษัทในปี 2553 จะเร่งขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยมีแผนการขยายตลาดไปยังประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับพันธมิตรธุรกิจหลายราย แต่แนวโน้มที่เป็นไปได้มากสุดจะเป็นความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจโทรทัศน์ใน กรุงจากาตาร์ ซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจใกล้เคียงกับธุรกิจของบริษัท คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้  โดยใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 60 ล้านบาท
“การที่บริษัทหันไปรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้นนั้น เนื่องจากตลาดมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและขยายตัวมากกว่าในประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซียที่เป็นฐานตลาดที่ใหญ่ อีกทั้งรูปแบบของการทำธุรกิจของพันธมิตรจะเป็นรูปแบบคล้ายกับค้าปลีก คือซื้อสินค้าเพื่อนำไปจำหน่าย ไม่ได้เป็นลักษณะของการฝากขาย ทำให้ลดความเสี่ยงของสินค้าแบรนด์ต่างๆ ซึ่งสินค้าที่บริษัทจะส่งเข้าไปนั้น ยังคงเป็นสินค้าใน 3 กลุ่มเดิม คือ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพและสินค้าทั่วไป อาทิ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งบริษัทได้เปิดรับสินค้าต่างๆ ที่ต้องการจะขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ อย่างครบวงจร”
นอกจากนี้บริษัทมีแผนการสร้างเครือข่ายธุรกิจในประเทศที่บริษัทได้เข้าไป ร่วมลงทุน โดยจะนำร่องจากการนำสินค้าจากประเทศมาเลเซียไปจำหน่ายให้กับพันธมิตรใน ประเทศเวียดนาม เนื่องจากสินค้าที่จำหน่ายในประเทศมาเลเซียนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าที่มาจากผู้ผลิตโดยตรง และเป็นลักษณะ B to B (Business to Business)  และในอนาคตสินค้าจะสร้างเครือข่ายธุรกิจดังกล่าวทั้ง 4 ประเทศเข้าด้วยกัน เพื่อเป็นการขยายตลาดมากขึ้น และเป็นการเปิดโอกาสให้แบรนด์ต่างๆ สามารถมีโอกาสในการเติบโตมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย อาจมีกลุ่มลูกค้าแค่ระดับหนึ่ง แต่ไปได้รับความนิยมมากในเวียดนาม อาทิ ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงทรวงอก
ทั้งนี้ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง  เริ่มจากปี 2551 ที่ได้เซ็นสัญญากับบริษัท แพลนเนต คอลเซ็นเตอร์ มาเลเซีย จำกัด เพื่อเปิดดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการจำหน่ายสินค้าผ่านระบบคอลล์เซ็นเตอร์ใน ประเทศมาเลเซีย โดยบริษัทถือหุ้น 49% และทางมาเลเซียถือหุ้น 51%  และเมื่อปลายปี 2552 ที่ผ่านมาได้ขยายตลาดเข้าสู่ประเทศเวียดนาม โดยบริษัท แพลนเนท คอนเนคชั่น(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเครือ ได้เซ็นสัญญากับบริษัท ลาสต้า มัลติมีเดีย จอยท์ สต็อก คอมพานี (เวียดนาม) จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจสถานีโทรทัศน์รายใหญ่ของประเทศเวียดนามช่อง VT9 เพื่อดำเนินธุรกิจ Hello Marketing ครบวงจรและถือเป็นธุรกิจรายใหญ่ที่สุดในภาคพื้นอินโดจีน ซึ่งใช้งบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท
สำหรับการรุกตลาดในประเทศเวียดนามและมาเลเซียนั้น บริษัทมีแผนการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยในประเทศเวียดนาม จะเริ่มรุกตลาดอย่างเต็มรูปแบบในปลายเดือนพฤษภาคม 2553 นี้ ด้วยการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ หลังจากที่ได้ทดลองตลาดด้วยการส่งสินค้าเฉพาะในเขตเมืองโฮจิมินห์และพื้นที่ ใกล้เคียงเท่านั้น  ตั้งเป้ารายได้ปีแรก 500 ล้านบาท ขณะที่ประเทศมาเลเซียนั้นจะเน้นการจัดกิจกรรมร่วมกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง และตั้งเป้ายอดขาย 500 ล้านบาทเท่ากับเวียดนาม
ขณะที่ตลาดในประเทศนั้น แม้ว่าในช่วงต้นปีที่ผ่านมาประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางด้านการ เมือง ส่งผลกระทบกับความมั่นใจกับกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่ยังเป็นต่างจังหวัด ดังนั้นบริษัทมีแผนการรุกตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น โดยการเน้นการใช้สื่อท้องถิ่นเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น และจากแผนการรุกตลาดดังกล่าว บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตในประเทศเพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 30% หรือคิดเป็นรายได้ประมาณ 800 ล้านบาท
ปัจจุบันสินค้าที่ทาง 1577 คอลเซ็นเตอร์ จำหน่ายนั้น มี 3 กลุ่ม คือ เครื่องสำอาง มีสัดส่วนการจำหน่ายประมาณ 40% กลุ่มอาหารเสริมสุขภาพ สัดส่วน 40% และอุปกรณ์ทั่วไป อาทิ อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีสัดส่วน 20%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,528   6-8  พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Written by bogtor

กรกฎาคม 22, 2010 at 1:30 pm

โตชิบา “โตทางลัด” “ผนึก” 1577 Call Center ยึดลูกค้า “เทเลเซล”

leave a comment »

ไม่ ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ประกอบธุรกิจย่อมต้องหาช่องทางขาย “ใหม่ ๆ และแตกต่าง” เพื่อเข้ามาเสริมยอดขายและความแข็งแกร่งของแบรนด์และสินค้า ไม่ต่างไปจากธุรกิจ “เครื่อง ใช้ไฟฟ้า” ภาพการแข่งขันที่ร้อนแรงบวกกับกำลังซื้อในตลาดที่แกว่งไป-มาตลอดเวลา ตามช่วงเวลาของภาวะเศรษฐกิจและเหตุการณ์ทางการเมือง

โมเดิร์นเทรดและเทรดดิชั่นนอลเทรดเป็น 2 ช่องทางเดิม

ที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้ามาอย่างยาวนานและต่อเนื่อง

การ ต่อสู้ทางธุรกิจนอกเหนือจากกลยุทธ์และเทคนิคทางการตลาดที่เหนือชั้นแล้ว การเฟ้นหาช่องทางขายใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนและแตกต่าง กลายเป็น 1 ในปัจจัยหลักที่เข้ามาช่วยดันยอดขายและเพิ่มมาร์เก็ตแชร์

ภาพการผนึก กำลังระหว่าง “โตชิบา” และ “1577 Call Center” ผู้ให้บริการขายตรงทางโทรศัพท์หรือระบบเทเลเซล ที่จดปากกาเซ็นสัญญาร่วมมือกันทางธุรกิจ จึงเกิดขึ้นช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา “ฮิเดโนริ มัสสุอิ” ประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของ โตชิบาที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการเพิ่มช่องทางขายใหม่ โตชิบาจะนำร่องที่เครื่องฟอกอากาศ “พิโคเด้” ก่อนที่จะขยายไปสู่ตัวสินค้าอื่น ๆ เพิ่ม

การขายสินค้าผ่านระบบเทเล เซลเป็นช่องทางใหม่ที่มีการขยายตัวสูงและต่อเนื่องทุกปี ที่สำคัญเหมาะสำหรับสินค้าในกลุ่มเพื่อสุขภาพที่ต้องใช้การอธิบายต่อลูกค้า อย่างละเอียด เหมาะสำหรับการทำตลาดเครื่องฟอกอากาศ

นอกจากนี้ คีย์แมน “โตชิบา” มองว่า ช่องทางขายสินค้าผ่านคอลเซ็นเตอร์นี้กำลังเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมใน เมืองไทย เหมือนอย่างเช่นตลาดญี่ปุ่นที่การขายผ่านช่องทางนี้ขยายตัวสูง

การ เฟ้นหาช่องทางขายใหม่ ๆ กลายเป็นกลยุทธ์ที่ “โตชิบา” รุกอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากก่อนหน้านี้ได้จับมือกับ “กิฟฟารีน” ขายสินค้าผ่านช่องทางขายตรง ในเกือบทุกตัวสินค้าโตชิบา ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว เตาอบไมโครเวฟ ในรูปแบบการขายผ่านสมาชิกกิฟฟารีนที่มีกว่า 5.5 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นสมาชิกที่แอ็กทีฟกว่า 3 แสนคน

ด้านมุมมองของผู้ให้ บริการระบบคอลเซ็นเตอร์ 1577 Call Center จุล โชติกะวรรณ” บริษัท Property Technology จำกัด ชี้ว่า ปัจจุบันธุรกิจช่องทางการขายผ่านคอล เซ็นเตอร์เติบโตขึ้นมาก เมื่อเทียบกับเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งแต่ละปีตลาดมีมูลค่าสูงถึง 1.4 หมื่นล้านบาท โดยมี 3 กลุ่มสินค้า คือ 1.อาหารเสริมและสุขภาพ 2.เครื่องสำอาง 3.เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนตลาด

“ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้ามีสัดส่วน ยอดขายผ่านช่องทางนี้ ประมาณ 25-30% แต่เชื่อว่าภายใน 1-2 ปีข้างหน้า สัดส่วนจะต้องเพิ่มขึ้น 40% ได้แน่”

ทุก ๆ ปีตลาดมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาทนี้สามารถขยายตัวได้ตลอด ส่วนหนึ่งเกิดจากพฤติกรรมลูกค้าที่เน้นความสะดวกในการหาซื้อสินค้า ซึ่งสอดรับกับการตอบโจทย์ตลาดของช่องทางคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งยังเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัดซึ่งมีกำลังซื้อ แต่ระบบสินค้ากระจายไปไม่ถึง จึงเป็นทางเลือกใหม่ และมีสินค้าจากคู่ค้าที่ร่วมทำธุรกิจในปัจจุบันกว่า 200 แบรนด์สินค้าให้เลือก ที่สำคัญการมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัดจนเกิดการซื้อซ้ำกว่า 60% จากฐานลูกค้า 8 แสนรายนั้น คือการบริการ 1577 Call Center จัดส่งสินค้าถึงบ้านฟรีทั่วประเทศ

“เทเลเซล” จึงกลายเป็นคำตอบของการผนึกกำลังระหว่าง “โตชิบา และ 1577 Call Center” สำหรับการขยายธุรกิจแบบก้าวกระโดด

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ http://www.prachachat.net/

Written by bogtor

กรกฎาคม 22, 2010 at 12:43 pm

“1577 คอลเซ็นเตอร์” จับมือ บอล-ภราดร และ จิ๊ก-เนาวรัตน์ ร่วมเสวนา “ผลิตภัณฑ์ปลอดภัย ผู้ประกอบการใส่ใจผู้บริโภค” พร้อมกับ อย. และผู้ประกอบการกว่า 250 ราย

leave a comment »

กรุงเทพฯ–29 มิ.ย.– พรอพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี่

1577 คอลเซ็นเตอร์ ระดมหน่วยงานภาครัฐ อย. สาธารณสุข และเอกชนกว่า 250 ราย จัดเสวนาเชิงลึก “ผลิตภัณฑ์ปลอดภัย ผู้ประกอบการใส่ใจผู้บริโภค” ณ โรงแรมเจ้าพระยา ปาร์ค หลังพบผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ไม่รู้กฎหมายข้อกำหนดฉลากสินค้า และโฆษณาสินค้าที่ถูกต้อง พร้อมกับ 2 คนดังที บอล-ภราดร ศรีชาพันธ์ และ จิ๊ก-นวรัตน์ ยุกตะนันท์ ในฐานะนักประกอบการหน้าใหม่ที่นำผลิตภัณฑ์จำหน่ายผ่านคอลเซ็นเตอร์

บริษัท พรอพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี่ จำกัด หนึ่งในผู้นำที่ให้บริการการจำหน่ายสินค้าผ่านระบบคอลเซ็นเตอร์ หมายเลข 1577 โดยนายจุล โชติกะวรรณ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจคอลเซ็นเตอร์เติบโตอย่างก้าวกระโดดมาก โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม SME ที่ยังมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจไม่สูง ขาดรายละเอียดที่ควรทราบ อาทิ การให้ข้อมูลบรรจุภัณฑ์ที่ถูกต้อง และการโฆษณาต่อผู้

บริโภค บริษัทจึงได้จัดเสวนาเชิงลึกขึ้นในหัวข้อ “ผลิตภัณฑ์ปลอดภัย ผู้ประกอบการใส่ใจผู้บริโภค” โดยมีหน่วยงานภาครัฐ จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข หรือ อย. และภาคเอกชน เข้าร่วมกิจกรรมรวมกว่า 250 ราย ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลถึงรายละเอียดที่ถูกต้องในฉลากบรรจุภัณฑ์ และการโฆษณาสินค้า เพราะอาจเข้าข่ายการให้ข้อมูลไม่ครบเข้าข่ายสินค้าไม่ได้มาตราฐาน หรืออวดอ้างสรรพคุณเกินจริงได้โดยไม่เจตนา เพราะกฏหมายในเรื่องนี้มีความซับซ้อนหลายด้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานรัฐต้องเร่งสร้างความเข้าใจให้กับผู้ผลิตที่ถูกต้อง

บอล-ภราดร ศรีชาพันธ์ นักเทนนิสชื่อดังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “ขณะนี้ได้หุ้นกับเพื่อนๆ ร่วมทำผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสำหรับผู้ชาย แบรนด์ เมจิค ไอริส โดยทำตลาดได้เกือบ 1 ปีแล้ว ซึ่งยอดขายหลักมาจากคอลเซ็นเตอร์ สาเหตุได้เลือกช่องทางนี้เพราะต้องการทำตลาดทั่วประเทศ ก่อนที่บุกตลาดประเทศ ซึ่งได้ดูแลรายละเอียดทั้งหมดตั้งแต่ส่วนประกอบ โลโก้ บรรจุภัณฑ์ การตลาด เหนื่อยมากครับแต่ทำให้รู้อะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของฉลาก เป็นอะไรที่ผู้ประกอบการไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะนั้นหมายถึงความใส่ใจต่อผู้บริโภค ในกรณีล่าสุดที่มีสื่อเสนอข่าวว่าผลิตภัณฑ์ของผมว่าพบสารกระตุ้นอยู่ด้วย ขอยืนยันครับว่าไม่เป็นความจริง เราได้ผ่านการตรวจสอบก่อนว่างจำหน่ายอย่างละเอียด ว่าไร้สารกระตุ้นอย่าง 100% โดยที่ผ่านมาได้รับการตอบที่ดีมาก ซึ่งยอดขายรวมก็ทะลุ 8 หลักแล้ว”

ด้าน จิ๊ก-นวรัตน์ ยุกตะนันท์ ดาราชื่อดังที่มาในฐานะนักธุรกิจหน้าใหม่ให้สัมภาษณ์ว่า “มีคนชอบถามพี่ว่าไปทำอะไร ใช้อะไร และพอดีมีเพื่อนๆ ที่รู้จักชวนทำธุรกิจ ก็ทำธุรกิจร่วมกันแล้วใช้โรงงานผลิตที่ได้มาตราฐานเทียบเท่าจากต่างประเทศ โดยใช้ชื่อว่าแบรนด์ “กิ๊กกะไวท์” ซึ่งยืนยันได้เลยว่า ส่วนประกอบและคุณภาพนั้นทัดเทียมได้กับแบรนด์ชั้นนำที่มีชื่อเสียง โดยนำมาจำหน่ายผ่านคอลเซ็นเตอร์เช่นกัน เมื่อพี่ทำตลาดดูสื่อต่างๆ แล้ว และพี่ไม่สบายอย่างยิ่ง เพราะการให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ หรือการโฆษณาต่อผู้บริโภคในสมัยนี้นั้นค่อนข้างรุนแรง เร้าใจ บางทีเขาอาจลืมนึกถึงใจผู้บริโภคไปเลยหรือป่าว พี่ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่หลายๆ ฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญ และมาร่วมเสวนาในวันนี้ โดยอยากให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ผู้ประกอบการศึกษาข้อมูลรายละเอียดให้ลึกซึ้ง และปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคด้วยคะ”

นายจุล กล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งเรื่องของฉลาก และการโฆษณา จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการต้องควรทราบ และร่วมกันปฏบัติ โดยบริษัทฯ จะตรวจสอบสินค้า และการสื่อสารของทุกๆ ผู้ประกอบการให้ถูกต้อง ก่อนจัดส่ง หรือเผยแพร่ไป การจัดเสวนาในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นสร้างความปองดอง และความเข้าใจตรงกันระหว่างภาครัฐ และเอกชน เพื่อมุ่งพัฒนามาตราฐานสินค้า สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคต่อสินค้า โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้มีเครือข่ายในอีก 2 ประเทศในอาเซียน คือ มาเลเซีย และเวียดนาม โดยมีแผนที่จะขยายตลาดให้ทั่วทั้งอาเซียน ก่อนที่จะขยับไปยังตะวันออกกลาง

ที่มา http://www.newswit.com

Written by bogtor

กรกฎาคม 12, 2010 at 4:08 am

1577 Call Center ทางเลือกใหม่ซื้อและขายสินค้าผ่านระบบมือถือ

leave a comment »

1577 call center ดาวรุ่งดวงใหม่แห่งธุรกิจ Call Center ในประเทศไทย สบช่องทางจำหน่ายสินค้าครบวงจร คว้าระบบไอที CTI มะกันหนุนบริการสั่งซื้อตลอด 24 ชั่วโมง เปรียบเสมือนผู้ช่วยด้านการตลาดที่มีประสิทธิภาพรวดเร็ว ฉับไว เน้นกรุยทางเลือกใหม่ในการทำธุรกิจในกลุ่ม SME ชูจุดยืน ONE STOP SERVICE สร้างความแตกต่างฉีกหนีคู่แข่ง ย้ำกลยุทธ์ทางการตลาด บริการจัดส่งทั่วประเทศแม้สั่งซื้อสินค้าชิ้นเดียว

นายจุล โชติกะวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท Property Technology จำกัด ผู้ให้บริการฝากขายสินค้าผ่านระบบ 1577 Call Center เปิดเผยว่า แนวโน้มของธุรกิจ Call Center ทั่วโลกมองว่าปัจจุบันผู้ผลิตสินค้าไม่ต้องการสร้าง Call Center เองเพราะมีต้นทุนสูงมาก ซึ่งการทำ Call Center อย่างน้อยต้องใช้เงินลงทุน ประมาณ 3-5 ล้านบาท ด้วยเหตุนี้ในประเทศที่พัฒนาแล้วจึงนิยมการเอาต์ซอร์สคอลเซ็นเตอร์ไปยังนอก ประเทศ เพราะ Call Center มืออาชีพจะดูแลให้หมด

สำหรับประเทศไทยธุรกิจ Call Center ยังถือว่ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และโดยส่วนใหญ่มักเป็นองค์กรใหญ่ที่ทำคอลเซ็นเตอร์เอง อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาเล็งเห็นแล้วว่าธุรกิจ Call Center มีแนวโน้มอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วมีมูลค่าตลาดหลายพันล้านบาทต่อปี

โดยธุรกิจ Call Center ปัจจุบันมีหลายรูปแบบแต่ส่วนใหญ่จะเป็นการรับโทรศัพท์แบบ fixed line กล่าวคือเป็นลักษณะใช้โทรศัพท์บ้านธรรมดา ซึ่งหากมีลูกค้าโทร.มาแต่ไม่ได้รับสายหรือสายไม่ว่าง ก็จะเสียลูกค้าไปทันที แต่ของทางบริษัทจะใช้ระบบไอทีที่ นำเข้ามาจากประเทศอเมริกาเรียกว่า computertelephone integration หรือ “CTI” เป็นการ เชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ ทำให้บริษัทสามารถเก็บทุกหมายเลขที่โทร.เข้า มาได้หมด

อย่างไรก็ดี คอนเซปต์ของธุรกิจ 1577 Call Center จะเป็นผู้ให้บริการเกี่ยวกับช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าครบวงจร ให้กับทุกขนาดขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของบุคลากร ขั้นตอนการทำงาน และเทคโนโลยี ทั้งนี้เพื่อเอื้อประโยชน์ในการทำธุรกิจอย่างสูงสุด

สิ่งที่บริษัทจะแนะนำผู้ขายก็คือ การที่จะต้องลงโฆษณาสินค้าผ่านทางสื่อสิ่งพิมพ์ด้วย แล้วก็ลงเบอร์สั่งซื้อคือ 1577 Call Center ซึ่งเมื่อลูกค้าโทร.เข้ามาบริษัทก็จะทำตั้งแต่ให้ข้อมูลสินค้า ตลอดจนการโน้มน้าวให้เกิดการตัดสินใจซื้อในที่สุด และเมื่อลูกค้าสั่งซื้อบริษัทก็จะจัดส่งสินค้าให้ โดยไม่ต้องโอนเงินผ่านธนาคารก่อน แต่ลูกค้าจะจ่ายก็ต่อเมื่อได้รับสินค้าแล้วเท่านั้น เป็นการเก็บเงินปลายทางโดยที่ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาเดินทางแต่อย่างใด

ทั้งนี้ 1577 Call Center เป็นเหมือนผู้ช่วยด้านการตลาด เพราะมีกลไกที่จะช่วยในการขาย ตลอดจนการเก็บบันทึกรายละเอียดของลูกค้า และการ followup เพื่อการทำ CRM ต่อไปในอนาคต โดยผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ 1577 ควรเป็นสินค้าคุณภาพ เกรดเอ ที่ต้องมีอัตราการซื้อซ้ำ ไม่ต่ำว่า 30-80% เช่นหากเดือนแรกขายได้ 10,000 ชิ้น เดือนต่อมาถึงแม้ว่าหากไม่มีการทำการตลาด ก็มีการซื้อซ้ำจากลูกค้าเดิมประมาณ 3,000-8,000 ชิ้น เช่น ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม ครีมบำรุงผิว อาหารเสริม เป็นต้น

นายจุล กล่าวเสริมว่า สินค้าที่มาขายใน Call Center ควรมีราคาไม่ต่ำกว่าหลักพันบาทขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อความคุ้มค่าในการจัดส่งแต่ละครั้ง เพราะบริษัทจัดส่งทั่วประเทศชิ้นเดียวก็ไป ดังนั้นควรเป็นของที่มีราคาหน่อย ไม่ถึงขนาดว่าเป็นของใช้ประจำวันที่หาซื้อได้ทั่วไปตามห้างโมเดิร์นเทรด ล่าสุดธุรกิจ เหล้า เบียร์ ที่โฆษณาทางโทรทัศน์ไม่ได้ หลังๆ ก็มาใช้บริการจากบริษัทมากขึ้น รวมถึงกลุ่มผู้ขายที่มีผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่เคยทำตลาดมาก่อนและกลุ่มธุรกิจ SME ที่มีงบการตลาดน้อย สู้ค่าแรกเข้าจองโมเดิร์นเทรดไม่ไหว และไม่มีทีมขายก็หันมาฝากขายสินค้าผ่าน 1577

สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดกับผู้ขายสินค้าที่ต้องการใช้บริการ 1577 คอลเซ็นเตอร์ แบ่งเป็นค่าแรกเข้าประมาณ 2 แสนบาท ซึ่งจะเป็นการติดตั้งฐานข้อมูลและซอฟต์แวร์เพื่อเชื่อมระหว่าง 1577 และผู้ขาย ทั้งนี้จะแยกผู้ขายแต่ละรายออกจากกันอย่างชัดเจน และมีค่าบริการโดยการหักส่วนแบ่งจากราคาขายซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 40-50% ของราคาสินค้าที่ขายได้

โดยจุดเด่นของ 1577 Call Center เป็นหมายเลขพิเศษที่โทร.ได้ทั้งโทรศัพท์บ้านและมือถือ และโทร.ได้ทั่วประเทศในอัตราเดียว พร้อมมีคู่สายรองรับเป็นจำนวนมาก มีพนักงาน Call Center ที่ทำงานเป็นกะ ไม่ต่ำกว่า 40-50 คน จึงแน่ใจได้ว่าสามารถรองรับลูกค้าได้หากผู้ขายโหมทำการโฆษณาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ช่องทาง 1577 Call Center เหมาะสำหรับผู้ขายบางรายที่มีสินค้าใหม่ที่ยังไม่เคยทำตลาดมาก่อน และธุรกิจ SME

ที่มา http://www.siamturakij.com

Written by bogtor

กรกฎาคม 12, 2010 at 3:43 am